คำปราศรัยแก่ที่ชุมนุมมุสลิมะฮฺ โดย เมาลานา อบุล อะอฺลา อัล-เมาดูดียฺ อบู อับดุรเราะหฺมาน แปลและเรียบเรียง พี่น้องมุสลิมะฮฺที่รักทุ กท่าน ข้าพเจ้ารู้สึกปิติยินดีที่ได้ รับรู้ว่าขบวนการอิสลามได้รั บแรงผลักดันจากในหมู่มุสลิมะฮฺ ของพวกท่านในภูมิภาคนี้ด้วยเช่ นกัน ในการที่พวกท่านได้จัดตั้งกลุ่ มทำการเผยแผ่อิสลาม บรรดามุสลิมะฮฺที่เข้ามามีส่ วนร่วมในญะมาอะฮฺ(กลุ่ม) ของพวกเรามี ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้ ชาย ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีส่วนร่ วมเท่าเทียมกันในการดำเนินชีวิต และกิจการทั้งหลายที่เกี่ยวกั บผู้หญิงก็มีความสำคัญเท่ากับส่ วนที่เกี่ยวกับ ผู้ชาย ทั้งคู่เป็นสิ่งที่ต้องพึ่ งพาอาศัยซึ่งกันและกันเหมือนกั บล้อเกวียนซึ่งจะ ต้องทำหน้าที่ร่วมกันเท่านั้นจึ งจะใช้งานได้
นั่นมีนัยยะว่ าระบบการดำเนินชีวิตทางสังคมไม่ สามารถดำเนินงานได้หากทั้ งสองแสดงบทบาทไม่ เท่าเทียมกัน อัลลอฮฺได้ทรงกำหนดล้อเกวี ยนสองล้อนี้ในลักษณะที่ว่า หากล้อหนึ่งเกิดติดขัดหรือหมุ นถอยหลัง เกวียนก็จะหยุดเคลื่อนที่ทันที
นี่จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ ว่า เราไม่อาจหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่ วมและความร่วมมือจากผู้หญิงเข้ าในทุกขบวนการ ทางสังคม และสำหรับขบวนการอิสลามแล้ว การมีส่วนร่วมของพวกเธอย่อมมี ความสำคัญเป็นพิเศษ อันเนื่องจากอิสลามมีเป้ าหมายในการที่จะปฏิรูปการดำเนิ นชีวิตของมนุษย์อย่าง จริงจังบนแนวทางที่อัลลอฮฺ ทรงกำหนด และแนวทางนี้ต้องการที่จะฝึ กอบรมทั้งผู้ชายและผู้หญิงเหมื อน ๆ กัน
สิ่งที่สำคัญก็คืออัลลอฮฺ ผู้ ซึ่งในอิสลามนั้นพระองค์เพียงผู ้เดียวเท่านั้นที่มีค่าคู่ ควรแก่การเคารพ ภักดี พระองค์เป็นพระผู้อภิบาลของผู้ หญิง เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงเป็ นพระผู้อภิบาลของผู้ชายด้วยเช่ นกัน และความจำเป็นต่อสิ่งที่พระผู้ อภิบาลได้ทรงระบุว่าเป็น “การยึดมั่นศรัทธาต่อสัจธรรม” นั้นมีความหมายใช้กับทั้ งสองเพศอย่างเท่าเทียมกัน
เป้าหมายเพื่อให้ “รอดพ้น” นั้นพระองค์ก็ทรงกำหนดสำหรับผู้ ชายและผู้หญิงเหมือน ๆ กัน นรกซึ่งพระองค์ต้องการจะช่ วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นจากมันนั ้นเป็นสถานที่ที่น่ าสยดสยองสำหรับผู้หญิงและสำหรั บผู้ชายเหมือนกัน สวนสวรรค์ที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ จะถูกประทานให้แก่ผู้หญิงด้ วยความมานะพยายามในการทำความดี ของนางมากเท่ากับที่ผู้ชายทำ
มันเป็นข้อเท็จจริงอีกว่า ภริยา แม่หรือพี่สาวและน้องสาวที่รั บนับถืออิสลามด้วยความจริงใจหรื อกระทำทุกสิ่ง ทุกอย่างที่อัลลอฮฺโปรดปรานนั้ นไม่สามารถเป็นหลักประกั นในความปลอดภัยของเขา จากไฟนรกได้ เช่นเดียวกันผู้หญิงก็ไม่ สามารถที่จะหวังการช่วยเหลือให้ พ้นจากไฟนรกด้วยคุณ ความดีของสามี พ่อ หรือพี่น้องชายของนางที่ปฏิ ญาณตนศรัทธาในอิสลามหรื อจากการกระทำดีของพวกเขา เอง ดังนั้น จึงไม่มีใครได้รับสิ่ งใดจากพระผู้อภิบาล เว้นแต่เขาจะต้องอุตสาหะด้วยตั วของเขาเอง
นั่นเป็นสาเหตุที่ว่ าทำไมอิสลามจึงรบเร้าทั้งผู้ ชายและผู้หญิงเหมือนกันให้สนใจ ช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้ นจากความชั่วและสนใจทุกสิ่งทุ กอย่างที่อาจจะทำให้ เขาหรือเธอห่างไกลจากความกริ้ วโกรธของอัลลอฮฺ และทำให้เขาหรือเธอมีค่าคู่ ควรกับรางวัลของพระองค์
ผู้หญิงในยุคแรกเริ่ มของขบวนการอิสลาม
ประวัติ ศาสตร์อิสลามได้ยืนยันว่าผู้หญิ งได้แสดงบทบาทเท่าเทียมกับผู้ ชายในขบวนการ อิสลาม อันที่จริงผู้ที่เข้ารับอิ สลามเป็นคนแรกก็เป็นผู้หญิง ผู้หญิงคนนี้คือ ท่านหญิงเคาะดีญะฮฺ มารดา แห่งศรัทธาชน เป็นนางที่คอยปลอบโยนท่านเราะซู ลในช่วงแรก ๆ ที่ท่านถูกแต่งตั้งเป็นศาสดา เป็นนางอีกที่ใช้ชีวิตร่วมกับท่ านเราะซูลในการประสบกับความทุ กข์ยากทุกชนิด เป็นเวลาถึงสิบปี เป็นนางอีกที่รับภาระค่าใช้จ่ ายทั้งหมดของขบวนการอิสลามในช่ วงที่อยู่มักกะ ฮฺ
นอกจากนี้ผู้ที่เข้ารับอิ สลาม 55 คนในระหว่างสามปีแรกแห่ งการเผยแผ่ 9 คนเป็นผู้หญิง และบรรดามุสลิมที่ต้องทิ้ งครอบครัวเนื่องจากการก่ อกรรมทำเข็ญอันโหดร้าย ทารุณที่พวกเขาได้รับจากพวกกาฟิ ร(ผู้ปฏิเสธศรัทธา) ชาวมักกะฮฺ และต้องถูกเนรเทศไปอยู่ที่อื่ นนั้นจำนวน 83 คน และในจำนวนนี้ 18 คนเป็นผู้หญิง
บรรดามุสลิมรุ่นแรก ๆ ที่ถูกกดขี่ส่วนใหญ่ในมักกะฮฺ นอกจากท่านบิลาล และท่านอัมมารฺแล้ว ยังมีผู้หญิงอีกสามคน คืออุมมุ อุเบส, อุมมุ อัมมาเราะฮฺ และซินนีนะฮฺ
เช่นเดียวกับชาวอันศอร(ผู ้ช่วยเหลือแห่งเมืองมะดีนะฮฺ) ทั้งชายและหญิงมีส่วนร่วมอย่ างเท่าเทียมกันในการเสียสละทรั พย์สินเงินทอง และอะไรหลาย ๆ อย่างให้แก่พี่น้องชาวมักกะฮฺ ของพวกเขา ในการตั้งถิ่นฐานใหม่ในมะดีนะฮฺ
และ แน่นอนเหลือเกินว่าพวกท่านเองก็ คงจะต้องเคยได้ยินเรื่ องราวของหญิงที่ดีงาม ชาวมะดีนะฮฺ ซึ่งสิ่งที่นางเป็นห่ วงมากในสงครามอุฮุดก็คื อความปลอดภัยของท่านเราะซูล เท่า นั้น เมื่อนางได้รับข่าวว่าสามี ของนาง พ่อของนาง และพี่ชายน้องชายของนางถูกฆ่ าตายในสนามรบ นางสามารถยอมรับข่าวอันเศร้ าสลดนี้โดยปราศจากความทุกข์ใด ๆ แต่นางกลับถามไถ่อย่างกังวลใจถึ งความปลอดภัยของท่านเราะซูลซึ่ งนางเคารพรัก และเมื่อนางได้เห็นท่านเราะซูล กลับมาจากสนามรบ นางก็ได้ขอบคุณอัลลอฮฺและอุ ทานออกมาว่า “โอ้ท่านเราะซูลของอัลลอฮฺ ถ้าท่านปลอดภัยก็ไม่มีอะไรจะสู ญเสียมากเกินไปสำหรับฉันที่ จะทนรับมันได้”
ในสมรภูมิเดียวกันนี้มี หญิงคนหนึ่งชื่อ อุมมุ อัมมาเราะฮฺกำลังง่วนอยู่กับการให้น้ำแก่ ทหารมุสลิม เมื่อนางเหลือบมองเห็นท่ านเราะซูลได้รับบาดเจ็บและถู กพวกศัตรูล้อมกรอบ นางได้ชักดาบออกจากฝักของนางแล้ วตรงปรี่เข้าไปช่วยปกป้องท่ านเราะซูล นางยืนขวางกลางระหว่างท่ านเราะซูลกับข้าศึกจนนางได้รั บบาดเจ็บเป็นแผลลึกที่ไหล่ ของนาง
เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เหล่านี้เป็นพยานเพียงพอแล้วที่ จะยืนยันถึงความจริงที่ว่า ผู้หญิงได้รับใช้อิสลามมากพอ ๆ กับที่ผู้ชายทำ พวกนางต้องทนรั บความยากลำบากและความโหดร้ายทุ กชนิด และพวกนางก็ไม่ลังเลใจเลยที่ จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อ อิ สลามพวกนางได้เสียสละชีวิ ตของพวกนางและสิ่งที่ นางครอบครองเพื่ออิสลาม พวกนางต้องตัดญาติขาดมิตรกั บญาติสนิทของพวกนางเพื่ ออพยพไปจากบ้านเกิดเมือง นอนของตัวเอง ความเสียสละเหล่านี้ ของบรรพชนของพวกท่านได้ปูทางเพื ่อชัยชนะของ อิสลามและมี อำนาจครอบครองโลก การฟื้นตัวขึ้นมาอีกของอิ สลามในปัจจุบันก็ต้องการความเสี ยสละเช่นเดียวกัน นี้ เพราะฉะนั้นพวกท่านจะต้องดำเนิ นรอยตามบรรพชนของพวกท่าน และแสดงความศรัทธาของพวกท่ านออกมาใน “การยึดมั่นศรัทธาต่อสัจธรรม”
มุสลิมะฮฺวันนี้กับภารกิจที่ต้ องทำ
บรรดา ผู้หญิงของพวกเราจะต้องกระทำ ณ เวลานี้ก็คือทำครอบครั วของพวกเธอให้สะอาดบริสุทธิ์ ทำให้ครอบครัวของพวกเธอและเพื่ อนบ้านของพวกเธอรอดพ้ นจากความโง่เขลางมงาย(ญาฮิลี ยะฮฺ) และความชั่วร้ายต่าง ๆ จัดระเบียบชีวิตครอบครั วของพวกเธอให้เป็นไปตามหลั กการอิสลาม โดยให้ห่างไกลจากญาฮิลิยะฮฺทั้ งสมัยโบราณและสมัยใหม่
จากนั้นต้องพยายามที่จะช่วยคนอื ่น ๆ ให้พ้นจากเรื่องดังกล่าวข้างต้น และช่วยให้บรรดาผู้หญิงอ่ านออกเขียนได้ เช่นเดียวกับการปฏิรูปการศึกษา และการอบรมเลี้ยงดูเด็ก ๆ ของพวกเธอตามระเบียบแบบแผนของอิ สลาม
หาก พวกผู้ชายของพวกเธอหลงไปในทางที ่ผิดและหมกมุ่นอยู่กั บการกระทำที่เกินขอบเขต ก็พยายามนำพวกเขากลับมายั งหนทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าพวกเขากำลังง่วนอยู่กั บการทำงานเพื่ออิสลามอยู่แล้ว พวกเธอก็ควรให้ความร่วมมืออย่ างเต็มที่แก่พวกเขา นี่เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเธอต้ องทำ ณ เวลานี้
ขั้นต่อมาพวกเธอจะถูกเรี ยกร้องให้ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ อีกด้วยเหมือนกัน เพื่อภารกิจนี้พวกเธอจะต้องผ่ านการฝึกฝนด้วยหลักสูตรที่ เหมาะสม แน่นอนว่าความยุ่งยากอันยิ่ งใหญ่ที่สุดที่ประสบแก่ผู้หญิ งที่ตกลงใจที่จะ ก้าวเดินไปบนหนทางที่ถูกต้อง ก็คือ การต่อต้านของบรรดาผู้อาวุ โสในครอบครัวของนาง นี่เป็นสภาพการณ์ที่ยากลำบากยิ่ งจริง ๆ แต่พวกเธอจะต้องดำเนินรอยตามตั วอย่างของบรรดามุสลิมะฮฺในยุ คแรก ๆ ของอิสลาม
อย่างไรก็ตาม แม้ในการเผชิญหน้ากับญาติ ๆ พวกเธออาจตกอยู่ในสภาพที่อ่ อนแอและทำอะไรไม่ได้ กระนั้น พวกเธอก็ไม่ถึงกับอยู่ ในสถานการณ์อันยากลำบาก เยี่ยงบรรดาผู้หญิงที่อยู่ในยุ คญาฮิลิยะฮฺซึ่งในยุคนั้นผู้หญิ งถูกลดลงมา อยู่ในสถานภาพที่ต่ำที่สุด มุสลิมะฮฺในยุคนั้นต้องเผชิญกั บการต่อต้านของผู้ชายซึ่งเป็นผู ้ปฏิเสธศรัทธา อันโหดร้าย และเป็นศัตรูอันเลวร้ายยิ่งต่ ออิสลาม ไม่เหมือนกับญาติผู้ ชายของพวกเธอในสมัยนี้ที่ อาจจะหลงทางผิดไปบ้างแต่พวกพวก เขาก็ยังคงเป็นมุสลิม
ผู้หญิงในสมัยนั้นยึดมั่ นความศรัทธาของพวกนางอย่างเหนี ยวแน่นด้วยความอดทน และเผชิญหน้าอย่างอาจหาญกับสิ่ งที่ยากลำบากเกินกว่าที่ พวกเธอในปัจจุบันนี้จะคาดคิด ชีวิตของพวกนางก็ยังสามารถทำหน้ าที่ดั่งดวงประทีปแก่ผู้หญิงทั่ วทั้งโลกได้
ข้าพเจ้าใคร่จะขอกล่าวถึ งเหตุการณ์บางตอนจากชีวิ ตของพวกนางดังนี้
ตัวอย่างการยืนหยัดของมุสลิมะฮฺ ในยุคแรก
ขอให้เรามาดูตัวอย่ างแรกของท่านหญิงเคาะดีญะฮฺ สมาชิกในครอบครัวของนางส่วนใหญ่ ได้ต่อต้านอิสลามอย่างดุเดือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนุฟัยลฺน้ องชาย ของนาง หนึ่งในบรรดาญาติชั้นแรกๆคือ อัสวัด กับซัมอฺะฮฺลูกของเขา ซึ่งเป็นมือขวาของอบูญะฮฺล์ ศัตรูตัวสำคัญที่สุดของอิสลาม แต่ท่านหญิงเคาะดีญะฮฺ ไม่เคยละทิ้งการมีส่วนร่วมกับท่ านเราะซูลเลย อันที่จริงนางได้สนับสนุนท่ านเราะซูลอย่างสุดตัว และใช้จ่ายเงินทองเพื่อสนับสนุ นท่านโดยไม่สนใจถึงความเป็นปรปั กษ์ต่ออิสลาม ของสมาชิกในครอบครั วของนางเลยแม้แต่น้อย
คนต่อมาคือท่านหญิงอุมมุ สะลามะฮฺ เป็นหญิงที่มาจากครอบครัวที่ ประกาศเป็นศัตรูต่อท่านเราะซูล นาง เป็นญาติชั้นแรกของ อบูญะฮฺล์ ศัตรูตัวสำคัญของอิสลาม อับดุลลอฮฺน้องชายของนางไม่ ยอมพลาดโอกาสที่จะทำลายมุสลิม กระนั้นก็ตามท่านหญิงอุมมุ สะลามะฮฺ ก็ เข้ารับอิสลาม และเมื่อนางไม่สามารถทนต่ อการกระทำอันไม่เป็นมิตรจากญาติ พี่น้องของนางได้ นางจึงละทิ้งครอบครั วของนางและอพยพไปยังอบิสสิเนีย
อีกตัวอย่างหนึ่งคือท่านหญิงฟาฏ ิมะฮฺ บินติ อัล-ค็อฏฏ็อบพ่อ ของนางคือ อัล-ค็อฏฏ็อบ และลุงของนางคือ อบูญะฮฺล์ พี่ชายแท้ ๆ ของนางคือท่านอุมัร อิบนิ อัล-ค็อฏฏ็อบ และยังเป็นศัตรูตัวฉกาจคนหนึ่ งต่ออิสลามและเคยข่มเหงมุสลิ มอย่างรุนแรง ก่อนที่ท่านจะเข้ารับอิสลาม
ฟา ฏิมะฮฺทราบดีถึงความไม่ปรานี ของพ่อและลุงของนางรวมทั้งพี่ ชายของนางด้วย แต่ก็เข้ารับอิสลามร่วมกับสามี ของนาง เมื่อท่านอุมัรรู้ข่าวนี้เข้าก็ มุ่งตรงไปยังบ้านของนางทันที เพื่อจะดูด้วยตัวของท่านเอง ถ้าข่าวที่ท่านได้รับมานั้นเป็ นความจริง
ใน ขณะที่ท่านเข้าไปใกล้ประตูบ้ านของน้องสาวของท่าน ท่านก็ได้ยินโองการอัล-กุ รอานบางโองการซึ่งกำลังมีคนอ่ านอยู่ในบ้านนั้น แค่นี้ก็มากเกินไปสำหรับท่านแล้ ว ท่านพังประตูเข้าไปในบ้านและตี สามีภริยาทั้งคู่อย่างไม่ปรานี ฟาติมะฮฺเลือดออกมากแต่นางก็ไม่ ยอมถอยหลังจากทางของอัลลอฮฺ เลยแม้แต่นิด เดียว นางบอกพี่ชายของนางอย่างเปิ ดเผยว่านางยอมตายดีกว่าที่ จะยอมหันเหไปจากความ จริงที่นางได้พบแล้ว
พี่ชายซึ่งเป็นคนที่น่ าเกรงขามถึงกับถอยหลังไปนิดหนึ่ ง เนื่องจากความมั่ นคงและความอดทนของนาง และขอให้นางมอบสิ่งที่นางกำลั งอ่านอยู่เมื่อครู่ให้กับท่าน ฟาฏิมะฮฺได้ส่งแผ่นกระดาษที่มี ข้อความของซูเราะฮฺฏอฮา ขณะที่ท่านอุมัรอ่านโองการของซู เราะฮฺฏอฮา ความจริงก็ได้ถูกเปิ ดเผยและแทรกซึมเข้าไปในหั วใจของท่าน เมื่อท่านอ่านเสร็จจิตใจของท่ านก็ได้ถูกกวาดล้างความไม่เลื่ อมใสในศาสนาและ ความหลงผิดออกไปจนหมดสิ้น และจิตใจของท่านก็เต็มเปี่ ยมไปด้วยอิสลาม
ฉะนั้น เกียรติอันนี้จึงเป็นของมุสลิ มะฮฺผู้หนึ่งที่นางได้ทำให้บุรุ ษที่ยิ่งใหญ่ อย่างท่านอุมัรเข้ามาอยู่ในร่ มเงาแห่งอิสลาม ซึ่งผลงานต่าง ๆ ของท่านอุมัร ก็ได้ถูกบันทึกไว้ในยุคทองแห่ งประวัติศาสตร์อิสลาม
ตัวอย่างที่น่าประทับใจยิ ่งอีกตัวอย่างหนึ่งเป็นเรื่ องของท่านหญิงอุมมุ หะบีบะฮฺ นาง เป็นคนตระกูลบนี อุมัยยะฮฺ ซึ่งเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ต่ออิ สลาม เด็กทุกคนของตระกูลนี้เปรี ยบเสมือนงูพิษหรือแมลงป่อง ซึ่งชมชอบที่จะกัดต่อยบรรดาผู้ ศรัทธา อบู สุฟยาน พ่อของอุมมุ หะบีบะฮฺ ได้เคยประมือกับท่านเราะซู ลในสนามรบ มาเป็นเวลาถึง 20 ปี ฮินดฺ บินติ อุตบะฮฺแม่ของนางก็เป็นคนที่ล้ วงตับออกมาจากร่างของท่านหั มซะฮฺ ผู้เป็นลุงของท่านเราะซูล แล้วเคี้ยว มันอย่างสมแค้น เมื่อท่านฮัมซะฮฺถูกทำร้ายล้ มล งในสนามรบ ป้าทางด้านพ่อของอุมมุ หะบีบะฮฺคืออุมมุ ญะมีล ก็คือภริยาของอบู ละฮับ ซึ่งนางอุมมุ ญะมีล ได้ถูกขนานนามไว้ในอัล-กุรอานว่ า ผู้แบกเปลวเพลิง(แห่งไฟนรก) ตาของอุมมุ ญะมีล ก็เป็นหนึ่งในบรรดาหัวหน้าเผ่ าของพวกกุร็อยชฺ ผู้ซึ่งนำทัพหน้าในการต่อสู้กับ อิสลาม
พวก ท่านทั้งหลายในที่นี้คงจะนึ กภาพได้ดีว่าเป็นการยากยิ่งเพี ยงไรที่จะต้องเกิด ขึ้นกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ งจากครอบครัวดังกล่าวนี้ ในการเข้ารับอิสลาม แต่ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้ นก็คือนางเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที ่เข้ารับอิส ลามในห้าปีแรกแห่งการเผยแผ่ที่ มักกะฮฺ สามีของนางก็เข้ารับอิสลามด้วย และทั้งคู่ก็ได้ถูกกดขี่ข่ มเหงอย่างโหดร้ายเป็นเวลาถึง 2 ปี ก่อนที่ทั้งสองจะอพยพไปยังอบิ สสิเนีย
แต่ ปัญหายุ่งยากของนางก็มิได้ยุติ ลงเพียงเท่านี้ ในอบิสสิเนีย สามีของนางได้ทิ้งอิสลามแล้ วไปเข้าเป็นคริสเตียน อุมมุ หะบีบะฮฺจึงแยกทางจากสามีผู้ ทรยศต่ออิสลาม เหมือนอย่างที่นางได้ แยกทางจากพ่อแม่ของนาง พี่น้องของนางเพื่ออิสลาม บัดนี้นางจึงถูกทอดทิ้งตามลำพั งในเมืองอื่นที่ไม่ใช่บ้านเกิ ดเมืองนอนของตัว เอง พร้อมกับลูกน้อยที่ต้องเลี้ยงดู แต่ก็ไม่มีความสะเทือนใจใดที่ยิ ่งใหญ่พอที่จะสั่นคลอนความศรั ทธาในอิสลามของ นางได้เลย นางมั่นคงประดุจภูผา ความแข็งแกร่งในอีหม่าน(ศรัทธา) ของ นางและความมั่นคงในศี ลธรรมของนางเป็นคุณสมบัติที่ โดดเด่นอย่างยิ่งที่ทำให้ ท่านเราะซูลไว้วางใจในตั วนางและเลือกนางเป็นภริยาคนหนึ่ งของท่าน
นิกาหฺ(การแต่งงาน) ของนางกับท่านเราะซูลก็ กระทำแบบทั้งคู่ไม่ได้อยู่ร่ วมในพิธีในขณะที่นางยัง คงอยู่ในอบิสสิเนีย นางกลับมะดีนะฮฺในระหว่ างสงครามค็อยบัรสองสามวันต่อมา อบู สุฟยานพ่อของนางก็มาอยู่ในมะดี นะฮฺด้วยเพื่อเจรจาสันติภาพกั บมุสลิม และอบู สุฟยานก็ต้องการความช่วยเหลื อจากลูกสาวของเขาเพื่ อการเจรจานี้ด้วย นี่เป็นครั้งแรกหลังจากเวลาผ่ านไป 13 ปีที่ทั้งสองได้พบกัน พวกท่าน ณ ที่นี้คงยากที่จะเชื่อว่าเมื่ อพ่อซึ่งเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาได้ พบลูกสาวซึ่ง เป็นมุสลิม และได้เข้าไปนั่งลงบนพรมที่ท่ านเราะซูลใช้ นางรีบดึงมันออก และพูดกับพ่ออย่างห้วน ๆ ว่า “ฉันจะไม่ยอมให้ศัตรูของอิ สลามนั่งลงบนพรมของท่านเราะซูล”
เหล่า นี้คือคุณงามความดีของผู้หญิงมุ สลิมที่แท้จริง การที่จะทำให้พวกท่านรอดพ้ นจากไฟนรกก็จะต้องซึมซับเอาคุ ณงามความดีเหล่านี้ เข้าไปด้วยเช่นกัน
พวก ท่านจะต้องเข้าใจให้ดีว่า สิทธิของผู้ใดที่มีต่อพวกท่านนั ้นไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง สามี และลูก ๆ ของพวกท่าน จะต้องไม่เหนือกว่าหรือเท่าเที ยมกับสิทธิของอัลลอฮฺและเราะซู ลของพระองค์ที่ มีต่อพวกท่าน ไม่มีผู้ใดมีสิทธิ์ที่จะได้รั บการเชื่อฟังปฏิบัติตามเยี่ ยงการเชื่อฟัง ปฏิบัติตามอัลลอฮฺและท่านเราะซู ล พวก ท่านจะต้องไม่ยึดเอาผู้ใดเป็นที ่รักในจิตใจของท่านยิ่งไปกว่าอั ลลอฮฺ และเราะซูลของพระองค์ และศาสนาของพระองค์ และพวกท่านจะต้องไม่กลัวผู้ ใดมากไปกว่ากลัวอัลลอฮฺ
ถ้า หากพวกท่านฝึกจิตใจของพวกท่ านได้ถึงขั้นนี้ มันก็เป็นการง่ายสำหรับพวกท่ านในการก้าวเดินไปบนหนทางของอั ลลอฮฺ และไม่มีอำนาจใดบนหน้าโลกนี้ จะสามารถชักนำพวกท่ านออกจากทางนี้ได้
นั่นมีนัยยะว่
นี่จึงเป็นข้อเท็จจริงที่
สิ่งที่สำคัญก็คืออัลลอฮฺ
เป้าหมายเพื่อให้ “รอดพ้น” นั้นพระองค์ก็ทรงกำหนดสำหรับผู้
มันเป็นข้อเท็จจริงอีกว่า ภริยา แม่หรือพี่สาวและน้องสาวที่รั
นั่นเป็นสาเหตุที่ว่
ผู้หญิงในยุคแรกเริ่
ประวัติ ศาสตร์อิสลามได้ยืนยันว่าผู้หญิ
นอกจากนี้ผู้ที่เข้ารับอิ
บรรดามุสลิมรุ่นแรก ๆ ที่ถูกกดขี่ส่วนใหญ่ในมักกะฮฺ นอกจากท่านบิลาล และท่านอัมมารฺแล้ว ยังมีผู้หญิงอีกสามคน คืออุมมุ อุเบส, อุมมุ อัมมาเราะฮฺ และซินนีนะฮฺ
เช่นเดียวกับชาวอันศอร(ผู
และ แน่นอนเหลือเกินว่าพวกท่านเองก็
ในสมรภูมิเดียวกันนี้มี
เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
มุสลิมะฮฺวันนี้กับภารกิจที่ต้
บรรดา ผู้หญิงของพวกเราจะต้องกระทำ ณ เวลานี้ก็คือทำครอบครั

หาก พวกผู้ชายของพวกเธอหลงไปในทางที
ขั้นต่อมาพวกเธอจะถูกเรี
อย่างไรก็ตาม แม้ในการเผชิญหน้ากับญาติ ๆ พวกเธออาจตกอยู่ในสภาพที่อ่
ผู้หญิงในสมัยนั้นยึดมั่
ข้าพเจ้าใคร่จะขอกล่าวถึ
ตัวอย่างการยืนหยัดของมุสลิมะฮฺ
ขอให้เรามาดูตัวอย่
คนต่อมาคือท่านหญิงอุมมุ

ฟา ฏิมะฮฺทราบดีถึงความไม่ปรานี
ใน ขณะที่ท่านเข้าไปใกล้ประตูบ้
พี่ชายซึ่งเป็นคนที่น่
ฉะนั้น เกียรติอันนี้จึงเป็นของมุสลิ
ตัวอย่างที่น่าประทับใจยิ
พวก ท่านทั้งหลายในที่นี้คงจะนึ
แต่ ปัญหายุ่งยากของนางก็มิได้ยุติ
นิกาหฺ(การแต่งงาน) ของนางกับท่านเราะซูลก็
เหล่า นี้คือคุณงามความดีของผู้หญิงมุ
พวก ท่านจะต้องเข้าใจให้ดีว่า สิทธิของผู้ใดที่มีต่อพวกท่านนั
ถ้า หากพวกท่านฝึกจิตใจของพวกท่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น