24/3/54

ฏอริก อิบนุซียาด แม่ทัพมุสลิมพิชิตสเปน

ภาพวาด


 ความสมถะเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่เราจะพบได้ในบรรพชนผู้ศรัทธาผู้พิชิต ดังตัวอย่างของ กรณีศึกษาการยึดสเปนของมุสลิมในปี ค.ศ. 711 ใน ขณะที่กษัตริย์แห่ง สเปนที่ชื่อว่า โรเดอริก สวมเสือผ้าที่ประดับประดาไปด้วยเพรชนิลจินดา และอยู่บนบัลลังในสมรภูมิที่ทำด้วยงาช้าง แต่แม่ทัพของมุสลิมนามว่า ฏอริก บินซียาด กลับเสื้อผ้าเยี่ยงสามัญชน และเขาก็ไม่ได้มาจากเชื้อสายที่สูงส่งอะไร เขาเป็นเพียงอดีตทาสที่ถูกปลดปล่อยจาก แม่ทัพมูซา เท่านั้น และในที่สุดอัลลอฮฺก็ได้ให้กองทัพมุสลิมมีโอกาศได้เปิดเมืองสเปนและปกครอง สเปนอย่างยาวนานถึง แปดศตวรรษ 
ภาพสมรภูมิ Guadalete ที่มุสลิมจำนวนประมาณ 12000 คนนำโดย ฏอริก บินซิญาด พิชิตกองทัพสเปน 90000 ที่นำโดย กษัตริย์โรเดอริก หลัง จากการพิชิต สเปนก็แตกเป็นรัฐเล็ก รัฐน้อย ผู้ปกครองต่างหลงใหลอยู่กับความหรูหราฟุ้มเฟือย แม้ว่าสเปนจะมีแอนดาลูเซียที่เจริญรุ่งเรืองทางด้านวิทยาการถึงขีดสุด แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับหลักการศาสนา งบประมาณมากมายได้ถูกทุ่มเทเพื่อการสร้างราชวังสุดหรู และภายในราชวังก็จะเต็มไปด้วยผู้หญิง สุรา ตัวตลก และนักบทกวีที่แต่งกลอนเพื่อสรรเสริญเจ้าเมือง ความขัดแย้งระหว่างรัฐต่างเกิดขึ้นเต็มไปหมดจนไม่อาจจะผนึกกำลังกันได้ ยิ่งเลวร้ายกว่านั้นคือการที่เจ้าเมืองบางคนยังไปตีสนิทกับพวกคริสเตียนทาง เหนือเพื่อหวังความดีความชอบจากศัตรู จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1086 นั้นกษัตร์คริสเตียนนามว่า อัลฟองโซที่ 6 ได้ มีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงขนาดที่เมืองหลายเมืองในสเปนต่างต้องจ่าย เครื่องบรรณาการไปให้ศัตรู  เมื่อมุสลิมเริ่มตระหนักถึงความอ่อนแอของตน บรรดาผู้รู้ทางศาสนาจึงต้องไปยังแอฟริกาเหนือเพื่อขอความช่วยเหลือจาก แม่ทัพผู้เคร่งครัดในศาสนานามว่ายูซุฟ บิน ตัชฟีน ซึ่งเขาเป็นคนที่แข็งแกร่ง กล้าหาญ ร่างกายกำยำล่ำสัน ใช้ชีวิตง่ายๆ และใจดีต่อผู้อื่น และยูซุฟ บินตัชฟีนคนนี้แหละที่ได้นำกองกำลังเพียงสี่หมื่นนาย เข้าไปต่อกรกับกองทัพของอัลฟองโซ ที่ 6 ขนาด สาม แสนนาย และด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺพระองค์ก็ได้ทำให้มุสลิมได้รับชัยชนะในที่สุด แม้ว่ามุสลิมสามารถรอดพ้นจากการถูกกวาดล้างของกองทัพคริสเตียนได้หวุดหวิด ได้ผู้ปกครองกลับยังคงไม่ละทึ้งแนวทางแห่งความฟุ้งเฟ้อ สเปนยังคงขาดความเป็นเอกภาพ หลักการศาสนาถูกละเลยโดยผู้ปกครอง จนในที่สุดราวสี่ร้อยปีต่อมา ค.ศ. 1492 พวก คริสเตียนได้ผนึกกำลังกันกวาดล้างมุสลิมขึ้น ในเวลานั้นความแตกแยกของมุสลิมได้มากเกินกว่าที่จะรวมตัวกันต่อต้านพวก คริสเตียน และคริสเตียนก็ได้กวาดล้างมุสลิมออกจากสเปนทั้งหมด ประชาชนนับหมื่นถูกสังหารหมู่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถขึ้นเรือข้าม มายังแอฟริกาเหนือได้
ภาพที่ถูกวาดย้อนหลังในปี 1882 ถึงเหตุการณ์ที่ Muhammad XII of Granada ได้เผชิญหน้า กับ Ferdinand II of Aragon และ Isabella I of Castile ที่กษัตริย์และราชินีต่างเมืองกันได้แต่งงานกันและผนึกกำลังของสองยักษ์ใหญ่เข้าบดขยีมุสลิมทุกๆเมืองของสเปนจนกระทั่งรัฐสุดท้ายคือ granada โดยที่ผู้ปกครอง Muhammad XII of Granada ได้ประกาศยอมแพ้ และได้ทำ สนธิสัญญา แห่ง granada และถูกเนรเทศออกจากเสปน ในยุคนี้เราจะพบความเป็นปึกแผ่นในคริสเตียนที่เข้มแข็งกว่ามุสลิม
สเปนที่บรรพชนพิชิตมาด้วย เลือด เนื้อ ชีวิต กลับถูกทำลายลงด้วยการฟุ้งเฟื้อฟุ้มเฟือยและการละเมิดหลักการที่ยังความ อ่อนแอแก่ประชาชาติมุสลิมยุคนั้นด้วยอนุมัติของอัลลอฮฺ
บทเรียนที่มีราคาประเมิน ไม่ได้นี้ได้ทำให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของค่านิยมที่ท่านนบีได้พยายามปลูก ฝังเกี่ยวกับดุนยาอาทิเช่น ฮาดีษเศาะฮีหฺที่รายงานโดย อัต ตีรมีซีย์ 1892 ที่ว่า " ดุนยาเปรียบอะไรกับอาคิเราะฮฺมิได้เว้ณแต่ประดุจดังเอานิ้วจุ่มลงในมหาสมุทรแล้วดูเถิดว่ามีอะไรติดกลับมา " 
และบรรดาศอฮาบะฮฺทั้งหลาย พวกเขาต่างใช้ชีวิตอย่างสมถะทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น ท่านสะอีด อิบนุ อามิร แม้ว่าท่านจะเป็นถึงผู้ปกครองเมือง ฮิมส์ แห่งซีเรีย แต่ท่านกลับอยู่ในรายชื่อผู้ที่ยากจนในเมืองของท่าน เสื้อผ้าของท่านมีเพียงแค่ชุดเดียวเท่านั้น และแม้ว่าท่านจะมีภารกิจมากมายในตอนกลางวันแต่ท่านจะทุ่มเทกลางคืนกับการอิ บาดะฮฺต่ออัลลอฮฺเท่านั้น บทเรียนดังกล่าวทำให้เรา เข้าใจท่านอุมัร อิบนิ ค็อฏฏอบ มากขึ้นที่ ท่านจะกวดขันคุณสมบัติเรื่องความสมถะ แก่ผู้ปกครองในเมืองของท่านอย่างยิ่ง และนอกจากนี้กองทัพมุสลิมในอดีตที่พิชิตซีเรียนั้นพวกเขาจะไม่ตั้งทัพใน เมือง แต่พวกเขาจะตั้งทัพในบริเวณที่กันดารออกไปบริเวณภูเขา ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่ต้องการให้สีสรรค์แห่งดุนยามาทำลายความกล้าหาญอัน บริสุทธิ์ของพวกเขา ดังนั้นเราในฐานะผู้ศรัทธาจะต้องสามารถเอาดุนยามารับใช้อาคีเราะฮฺโดยที่ไม่ตกเป็นทาสของดุนยา ใน ช่วงเวลาที่สภาพสังคมของอาณาจักรอิสลามเริ่มรุ่งเริงทางด้านวัตถุมากขึ้น ท่านคอลีฟะฮฺ อุษมานได้เตือนประชาชนว่า "โลกนี้คือกับดัก จงระวังมันให้ดี จงห่างจากกับดักแห่งความชั่วและจงอุทิศชีวิตของพวกท่านเพื่อแสวงหาความโปรด ปรานจากอัลลอฮฺ"  และบทสรุปของประวัติศาสตร์หลายต่อหลายครั้งกลับยังคงยืนยันถึงความสำคัญยิ่งยวดของคำเตือนจากฟากฟ้าของอัลลอฮฺผู้ทรงรอบรู้
   และจงให้สิทธิแก่ญาติที่ใกล้ชิด และผู้ขัดสน และผู้เดินทาง และอย่าสุรุ่ยสุร่ายอย่างฟุ่มเฟือย27.แท้จริง บรรดาผู้สุรุ่ยสุร่ายนั้นเป็นพวกพ้องของเหล่าชัยฏอน และชัยฏอนนั้นเนรคุณต่อพระเจ้าของมัน(*1*)
(1)  การใช้จ่ายอย่าง สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยนั้น คือการใช้จ่ายไปในทางที่ไม่จงรักภักดีต่ออัลลอฮ หรือในทางที่เป็นการฝ่าฝืนพระองค์หรือในทางเสียหาย ฉะนั้น ผู้ใดปฏิบัติตนอยู่ในแนวทางนี้ เขาย่อมเป็นพี่น้องหรือพวกพ้องของชัยฏอนเพราะชัยฏอนมันเนรคุณพระเจ้าของมัน ดังนั้นผู้สุรุ่ยสุร่ายจึงอยู่ในสภาพเดียวกันกับชัยฏอน
แท้จริงบรรดาผู้สุรุ่ยสุร่ายนั้นเป็นพวกพ้องของเหล่าชัยฏอน และชัยฏอนนั้นเนรคุณต่อพระเจ้าของมัน (*1*)
(1)  การใช้จ่ายอย่าง สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยนั้น คือการใช้จ่ายไปในทางที่ไม่จงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ หรือในทางที่เป็นการฝ่าฝืนพระองค์ หรือในทางเสียหาย ฉะนั้น ผู้ใดปฏิบัติตนอยู่ในแนวทางนี้ เขาย่อมเป็นพี่น้องหรือพวกพ้องของชัยฏอน เพราะชัยฏอนนั้นมันเนรคุณพระเจ้าของมัน ดังนั้นผู้สุรุ่ยสุร่ายจึงอยู่ในสภาพเดียวกับชัยฏอน
ดังนั้นจงศรัทธามั่นในอัลลอฮฺและรอซูลเถิด
ประมวลจาก หนังสือแผ่นดินญีฮาด โดย เอ็ม เอ็ม กุเรซี , ประวัติศาสตร์อิสลามและโลกมุสลิม โดย ดร.อับดุรฺ รออุฟ , ประวัติศอฮาบะฮฺ โดย สายสัมพันธ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น