สำนักข่าวอัล-อาราบิญา, เอเจนซี่
ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียให้คำมั่นเมื่อวันเสาร์ (16/04) ว่าจะยกเลิกการใช้กฎหมายฉุกเฉินภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากการประท้วงในเมืองต่างๆ ยืดเยื้อมากว่าเดือน
ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียให้คำมั่นเมื่อวันเสาร์ (16/04) ว่าจะยกเลิกการใช้กฎหมายฉุกเฉินภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากการประท้วงในเมืองต่างๆ ยืดเยื้อมากว่าเดือน
สถานีโทรทัศน์ทางการออกอากาศการปราศรัยกับคณะรัฐมนตรีใหม่ของอัสซาด ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ที่เขาปรากฏตัวออกสู่สาธารณะนับตั้งแต่เกิดความวุ่นวายในประเทศ กฎหมายฉุกเฉินที่ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 จำกัดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ห้ามการชุมนุมเคลื่อนไหวในที่สาธารณะ และยังให้สิทธิ์เจ้าหน้าที่ในการจับตา และสอบสวนคนที่ต้องสงสัยโดยไม่ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
ภาพการประท้วงในประเทศซีเรีย
ในการปราศรัยดังกล่าว อัสซาดเรียกร้องให้มีการเจรจากับสหภาพ และองค์กรต่างๆ และร่วมกันสรรหาวิถีการปกครองที่เหมาะสมกับประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาซีเรียเป็นประเทศที่น่าเคารพยกย่อง ภักดีต่อระบอบปกครอง และปฏิเสธการจลาจลวุ่นวาย
สำนักข่าวเอ.พี. รายงานว่าก่อนหน้าการปรากฏตัวทางโทรทัศน์ครั้งนี้ ผู้ประท้วงเรือนหมื่นเข้าร่วมชุมนุมในพิธีฝังศพของ อุสมะ อัล-ชีคฆา วัย 40 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์จากบาดแผลที่ได้รับในการปะทะกันที่บานิแอส เมืองนี้มีชาวซุนนี Alawite Muslims และชาวคริสเตียนอาศัยอยู่เป็นส่วนมาก และมีการประท้วงเช่นเดียวกับที่เมืองเดอรา
สำนักข่าวเอเอฟพี. รายงานว่ามีผู้ชุมนุมประท้วงประมาณ 4,500 คน ในเขตรัส อัล-อีน, อะมูดา และเดอร์บาสซิเย ใกล้ฆอมิชลี ซึ่งเป็นเขตที่ชาวเคอร์ดิชอาศัยอยู่
ส่วนในเมืองลัตตาเกีย ทางชายฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงเหนือก็มีการประท้วงเช่นกัน โดยมีผู้ชุมนุมประมาณ 1,000 คน ในขณะที่เมืองโจบาร์ ทางเหนือของดามัสกัส ตำรวจใช้กระบอง และแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงประมาณ 2,000 คน ตามรายงานของกลุ่มสิทธิมนุษยชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น